สะสม “ปืนโบราณ” มีความผิด…

ปืนโบราณ

นายกรกช (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ ประกอบอาชีพรับจ้างส่งผัก จบการศึกษาชั้นมัธยมต้น แม่ของกรกชเสียชีวิตไปแล้ว โดยเขาต้องอยู่และช่วยพ่อทำมาหาเลี้ยงครอบครัวที่มีฐานะยากจน และมีหนี้สินภาระที่ต้องรับผิดชอบ

ในช่วงต้นเดือนก.ค.2557 กรกชถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เนื่องจากมีการตรวจพบอาวุธปืน ที่ระบุว่าเป็น “ปืนลูกซองเดี่ยว” (Snider Patent) ขนาด 28 ซึ่งไม่มีใบอนุญาต จำนวน 1 กระบอก อยู่ในบ้านของเขา หากแต่อาวุธปืนของกลางดังกล่าว กรกชระบุว่าเป็นเพียงอาวุธปืนโบราณ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนมาถึงพ่อของเขา ทั้งยังมีลักษณะเก่าและชำรุด โดยปกติมีไว้เพียงตั้งโชว์ไว้ภายในบ้านเท่านั้น

ต่อมา อัยการทหารได้ยื่นฟ้องคดีของกรกชต่อศาลทหารกรุงเทพ ในข้อหาเรื่องการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฝ่าฝืนไม่นำอาวุธปืนส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ในเวลาที่กำหนด ตามประกาศของคสช. กรกชได้ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และได้ติดต่อขอให้ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจัดทำคำร้องประกอบคำรับสารภาพให้

วันที่ 4 ก.พ.2558 ศาลทหารกรุงเทพได้พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดใน 2 กระทง คือฐานมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ให้ลงโทษจำคุก 8 เดือน และปรับ 4,000 บาท ส่วนความผิดฐานไม่นำอาวุธปืนส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ ตามประกาศคสช.ฉบับที่ 62/2557 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี รวมจำคุกสองกระทง 2 ปี 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 2,000 บาท

ศาลทหารยังเห็นว่าตามสภาพความผิด จำเลยเพียงแต่มีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดอื่น จึงไม่มีความร้ายแรงนัก ประกอบกับจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน คดีจึงมีเหตุอันปรานี ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ มีกำหนด 2 ปี เนื่องจากคดีเกิดขึ้นภายใต้กฎอัยการศึก จึงถือเป็นอันสิ้นสุดในศาลเดียวเช่นกัน โดยจำเลยไม่สามารถอุทธรณ์คดีได้

———————–
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

แหล่งข้อมูล : https://www.gunsth.com/?p=220

กลับสู่เมนูหลัก : คลิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *