ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม เผยให้เห็นตำรวจเมียนมาติดอาวุธปืนไรเฟิล สั่งให้ชายคนหนึ่งคลานไปถนน ในระหว่างการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในนครย่างกุ้ง (รอยเตอร์)
ม็อบเมียนมาถูกทหารยิงดับอีก 2 ศพ มาเลเซียประสานเสียงอินโด จี้อาเซียนถกวิกฤต
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ในเมียนมาว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวเมียนมายังคงออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมืองต่างๆ หลังจากเมื่อคืนก่อนมีรายงานชาวเมียนมา 2 ราย ถูกทหารยิงเสียชีวิตในเมืองโมโกะ จากการรายงานของสำนักข่าวเมียนมานาว ส่งผลให้ยอดผู้ประท้วงที่ถูกกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาใช้กำลังรุนแรงเข้าเข่นฆ่าปราบปรามหลังกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่าอย่างน้อย 237 ราย จากการรวบรวมข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี)
ภาพที่มีการโพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 20 มีนาคม เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมายืนุมองชาวบ้านขนย้ายกระสอบทรายที่ถูกตั้งเป็นแนวกั้นบนถนนในนครย่างกุ้ง (เอเอฟพี)
ขณะที่ภาพข่าวที่วอยซ์ออฟเมียนมาออกมาเผยว่าในวันเดียวกันนี้ ยังมีกลุ่มผู้ประท้วงหลายสิบคนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเคลื่อนไหวเดียวกับของกลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองเจาะเม ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ผู้ชุมนุมยังถือป้ายสัญลักษณ์เรียกร้องให้ประชาคมโลกยื่นมือเข้ามาแทรกแซง เพื่อยุติความรุนแรงในแผ่นดินเมียนมาด้วย
เอเอฟพี
นายจ่อ มิน ทิก นักเคลื่อนไหวเปิดเผยกับรอยเตอร์ ก่อนที่เขาและเพื่อนร่วมอุดมการณ์จะรวมตัวชุมนุมกันใจกลางเมืองทวายว่า พวกเขาต้องปรับกลยุทธ์ในการเคลื่อนไหว โดยจะรวมตัวชุมนุมกันในพื้นที่ที่ไม่มีตำรวจหรือทหาร เมื่อได้ยินว่าตำรวจหรือทหารจะเคลื่อนกำลังเข้ามา พวกเขาก็จะสลายตัวกันในทันที เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้มีการสูญเสียพี่น้องผู้ร่วมชุมนุมไปอีก และว่า พวกเขาจะประท้วงต่อไป จนกว่าการปฏิวัติของชาวเมียนมาจะประสบชัยชนะ
ขณะที่นานาชาติยังคงประณามและกดดันให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการใช้กำลังรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับชาวเมียนมา ซึ่งรวมถึงชาติอาเซียนที่นอกจากจะมีประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย แสดงท่าทีอย่างแข็งขัน เรียกร้องให้บรูไน ในฐานะประธานอาเซียน จัดการประชุมระดับสูงเพื่อหารือถึงวิกฤตปัญหาในเมียนมาอย่างเร่งด่วน
ท่าทีข้างต้นยังได้รับการสนับสนุนจากนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่กล่าวด้วยว่า รู้สึกตกใจกับการใช้ความรุนแรงที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือนผู้ไร้ซึ่งอาวุธในเมียนมา
“มาเลเซียและประชาคมอาเซียน ไม่สามารถทนเห็นประเทศพี่น้องอย่างเมียนมาต้องตกอยู่ในความไม่มั่นคงด้วยมือของคนไม่กี่คน ที่แสวงหาการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองได้” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว
ด้านนายทีโอโดโร ลอคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อาเซียนจะต้องลงมือทำ ส่วนสิงคโปร์แสดงการต่อต้านการใช้ความรุนแรงและการทำรัฐประหาร พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพยึดอำนาจไปด้วย
แหล่งข้อมูล : matichon.co.th
กลับสู่เมนูหลัก : คลิก
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ข่าว
กู้ภัยผวา ถูกญาติคนเจ็บเอาปืนจ่อหัว ขณะพาไปรพ. ผู้ใหญ่บ้านโดดร่วมวง อ้างเป็นลูกชาย
บทความ
10 ประเทศที่พกอาวุธ “ปืน” ผ่าน ตม. ได้
ข่าว
สั่งให้ออกดาบตำรวจ ขโมยปืนหลวงขาย 24 กระบอก ให้ชนกลุ่มน้อย
บทความ
ตำรวจบ้าน ชรบ. อปพร. พกอาวุธปืนได้จริงหรือ?