ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความเป็นมาก่อนที่จะมี AK203 เวอร์ชั่นอินเดียผลิตเองก่อน
ในช่วงปี ค.ศ.2015 อินเดียได้เริ่มทดสอบปืนเล็กยาวรุ่นหนึ่งที่ปรับปรุงมาจากปืน INSAS 1B1 และได้ผลิตออกมามันมีชื่อว่า Excalibur เป็นปืนที่แตกสายมาจากปืน INSAS ภายใต้ปรับปรุงของแผนก ARDE ของ DRDO ซึ่งภายหลังก็มีโครงการ MIR (Modified INSAS Rifle) โดยใช้พื้นฐานจากปืนไรเฟิล Excalibur ปืนชื่อว่า Ghatak และอินเดียวางแผนจะเอาเจ้านี่ทดแทน INSAS แต่ทว่าโครงการ MIR ถูกยกเลิกการพัฒนาและอินเดียเลือกที่จะซิ้อได้ซื้อสิทธิบัตร AK103 จากรัสเซียโดยจะทำการผลิตเองโดยมีสัญญาการผลิต 6.5 ล้านกระบอก
และในช่วงปี ค.ศ.2018 อินเดียตัดสินใจซื้อ SIG 716 ให้หน่วยแนวหน้าติดกับชายแดนปากีสถาน ภายหลังในปีเดียวกัน Rossoboronprom ก็เสนอ AK-203 เพิ่มเพราะไม่ต้องการใช้บริษัทอื่นได้ดีลไปแบบ SIG อีก สรุปคือทุกวันนี้หน่วยแนวหน้าจะใช้ SIG 716 และหน่วยอื่นจะได้ AK-203 เวอร์ชั่นที่อินเดียผลิตเองซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง AK-103 กับ AK-203 โดยจะใช้สายการผลิตเดียวกัน
ความแตกต่าง
1.ประกับลำกล้องบน AK-203 ของอินเดียประกับลำกล้องบนจะเป็นแบบ AK103 ซึ่งไม่มีรางพิทาคินี่ไว้ติดอุปกรณ์เสริมในขณะที่ AK-203 ของรัสเซียประกับลำกล้องบนจะมีรางพิทาคินี่
2.คันบังคับการยิง คันบังคับการยิงของ AK-203 ที่อินเดียผลิตจะเป็นคันบังคับการยิงที่ไม่มีแท่นเหล็กไว้ดันคันบังการยิงด้วยนิ้วชี้แบบ AK-103,AK74 ซึ่งทำให้ AK-203 ของอินเดียนั้นเวลาปรับคันบังการยิงจะต้องใช้มือทั้งมือมาปรับคันบังคับการยิง (จริงๆมันใช้นิ้วเดียวก็ได้นะแต่มันต้องออกแรงหน่อยนะ) ในขณะที่ AK-203 ของรัสเซียสามารถปรับคันบังการยิงโดยใช้แค่นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวดันๆไปมาเบาๆ ซึ่งเป็นคันบังคับการยิงแบบเดียวกับที่มีในชุดอัพเกรด Universal upgrade kit
3.พานท้ายของตัวปืน พานท้ายของ AK-203 ที่อินเดียผลิตเองจะใช้พานท้ายเต็มพับข้างได้แบบ AK-103,AK74 ในขณะที่ AK-203 ของรัสเซียจะใช้พานท้ายของชุดอัพเกรด Universal upgrade kit ซึ่งเป็นพานท้ายแบบปรับระดับได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
แหล่งข้อมูล : GUN in The World
กลับสู่หน้าหลัก : สนามกีฬายิงปืนหาดใหญ่
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ
ข้อดีของปืนลูกซอง นิยมซื้อไว้เฝ้าบ้าน
บทความ
พกปืนผิดมือ มีความผิดอย่างไร ?
ข่าว
เจ้าหน้าที่เมียนมายิงผู้ประท้วงเสียชีวิตอีก 8 คน
บทความ
เกล็ดความรู้เกี่ยวกับปืน ความหมาย ป.1 – ป.14