อาร์คติก วอร์แฟร์ 7.62×51 NATO (.308 Win) สุดยอดปืนซุ่มยิงสัญชาติอังกฤษ

สัปดาห์นี้ขอแนะนำปืนยาวเฉพาะกิจสำหรับการยิงหวังผลระยะไกล ที่เรียกกันว่า “ปืนซุ่มยิง” หรือ “ปืนสไนเปอร์” (Sniper Rifle) ซึ่งในรูปแบบปกติ ไม่ติดอุปกรณ์ลดเสียง ก็เป็นปืนที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตซื้อได้ คือประชาชนสามารถมีไว้ในครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่ถ้าติดอุปกรณ์ลดเสียงให้เบาผิดปกติ จะออกใบอนุญาตไม่ได้ เข้าข่ายอาวุธสงคราม

คำว่า “sniper” มาจาก “snipe” ที่แปลว่า นกปากซ่อม ประมาณ ค.ศ. 1770 ทหารอังกฤษที่ยึดครองอินเดียนิยมล่านกปากซ่อมแข่งกัน ผู้ที่ล่านกได้มากต้องสามารถพรางตัวคืบคลานเข้าใกล้นก และยิงปืนได้แม่นยำ ได้รับการเรียกขานว่า “sniper” ตามชื่อนก ต่อมาในปี ค.ศ. 1824 ศัพท์นี้จึงมีใช้เป็นทางการในความหมายว่า “sharpshooter” คือพลแม่นปืน

สไนเปอร์ในยุคปัจจุบันอาจแบ่งเป็นสองกลุ่มตามลักษณะงาน คืองานทางทหาร กับรูปแบบงานตำรวจ สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนคือระยะยิง สไนเปอร์ของทหารจะยิงจากระยะไกลมาก เช่น 400 ถึง 800 เมตร เมื่อใช้กระสุน 7.62×51 NATO (.308 Winchester) และอาจไกลออกไปถึง 1,200 เมตร เมื่อใช้กระสุนใหญ่ขึ้นแรงขึ้นในระดับ .338 จนถึงไกลที่สุดกว่า 2,000 เมตร ด้วยกระสุน .50 BMG ที่เป็นกระสุนสำหรับปืนกลหนัก ปรับเปลี่ยนหัวกระสุนมาใช้กับปืนลูกเลื่อนขนาดใหญ่ สำหรับงานซุ่มยิงระยะไกลเป็นพิเศษ

ในด้านงานตำรวจที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมือง ระยะยิงของสไนเปอร์จะไม่ไกลมาก อยู่ในช่วง 50 ถึง 300 เมตร มีข้อสังเกตอีกด้านหนึ่งคือ สไนเปอร์ของตำรวจมักเป็นหน่วยสนับสนุนทีมล้อมจับคนร้าย มีโอกาสถูกยิงตอบโต้น้อยกว่า จึงสามารถยิงจากระยะไม่ไกลนักได้ แต่สไนเปอร์ทหารมักเป็นการซุ่มยิงโดยลำพังหรือเพียงสองคน จำเป็นต้องพรางตัวอย่างดีเพราะฝ่ายตรงข้ามมักมีกำลังเหนือกว่า และต้องยิงจากระยะไกลเพื่อให้อยู่นอกรัศมีการยิงตอบโต้

สไนเปอร์ของกองทัพสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ใช้ปืนไรเฟิลแบบลูกเลื่อนเหมือนปืนล่าสัตว์ทั่วไป เช่น เรมิงตัน โมเดล 700 เปลี่ยนใส่ลำกล้องหนาแบบปืนยิงเป้า และรางปืนไฟเบอร์กลาสที่ใช้งานในสภาพความชื้นสูงของป่าเขตร้อนได้ดีกว่าไม้ รหัสทางทหารของเรมิงตัน .308 ตัวนี้ คือ M24

ทางด้านกองทัพสหราชอาณาจักร เลือกปืนของบริษัท Accuracy International (AI) เป็นปืนสไนเปอร์ รหัส L96A1 ซึ่งแต่เดิม AI ตั้งชื่อปืนรุ่นนี้ว่า Precision Marksman ออกแบบเป็นปืนยิงเป้า ต่อมาพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่ร้อนจัดแบบทะเลทราย จนถึงเย็นจัดระดับขั้วโลก ยิงหวังผลนัดแรกได้ไม่มีปัญหาชิ้นส่วนโลหะหดตัวเมื่ออุณหภูมิลดต่ำมาก จึงตั้งชื่อรุ่นว่า อาร์คติก วอร์แฟร์ (Arctic Warfare : AW) และนอกจากขายปืนทั้งกระบอกแล้ว AI ยังขายเฉพาะส่วนรางปืน ให้นำไปประกอบกับห้องลูกเลื่อนพร้อมลำกล้องของปืนอื่นได้ เช่น กองทัพเรือสหรัฐ ใช้โครง AI ใส่กับปืนลูกเลื่อน เรมิงตัน 700 เรียกรหัสว่า Mk13 MOD5

อาร์คติก วอร์แฟร์ รุ่นพื้นฐาน ขนาดกระสุน .308 ลำกล้อง 26 นิ้ว ความเร็วหัวกระสุน 2,790 ฟุต/วินาที ระยะหวังผล 600 เมตร สามารถติดศูนย์ รูเป็นปืนยิงเป้าแข่งขันได้ แต่สำหรับงานสไนเปอร์มักติดกล้องเล็งกำลังขยาย 10 ถึง 12 เท่า จากรุ่นพื้นฐานนี้ มีรุ่นแยกย่อยคือ

AWM (AW Magnum) ใช้กระสุนแม็กนั่ม ขนาด .300 Win. หรือ .338 Lapua ที่ยืดระยะหวังผลออกไปเกือบเท่าตัว
AWF (AW Folding) พานท้ายพับได้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
AWP (AW Police) ลำกล้องสั้นลงเหลือ 24 นิ้ว ทำสีดำทั้งกระบอก
AWC (AW Covert) ลำกล้องสั้นเพียง 12 นิ้ว ติดอุปกรณ์ลดเสียงต่อยาวถึง 24 นิ้ว พานท้ายแบบพับได้ ถอดแยกส่วนพร้อมกล้องใส่กระเป๋าเอกสารขนาดใหญ่ ดูภายนอกไม่บ่งลักษณะว่าเป็นปืน
AWS (AW Suppressed) รุ่นเก็บเสียง ลำกล้องส่วนทำเกลียว 16 นิ้ว ติดอุปกรณ์เก็บเสียงถาวร รวมความยาวลำกล้อง 28 นิ้ว ใช้กับกระสุน sub-sonic ความเร็วต่ำกว่าเสียง คือไม่เกิน 1,100 ฟุต/วินาที ระยะหวังผล 300 เมตร เสียงเมื่อยิงไม่ดังกว่าลูกกรดลำกล้องยาว.